เพื่อน ๆ และครอบครัวชาวไทยวาทุกท่าน

ตลอดช่วงระยะเวลาในรอบสิบสองเดือนที่ผ่านมา เรายังคงต้องเผชิญกับความปกติใหม่ท่ามกลางวิกฤต โควิด-19 เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน สังสรรค์ ใช้ชีวิต และประสานความร่วมมือในฐานะชุมชนที่อยู่อาศัยร่วมกัน แม้ความพยายามหลายอย่างของเราในช่วงปีแรกของวิกฤต โควิดเป็นไปเพื่อให้ทีมงาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง และโรงงาน ของเราปลอดภัย แต่ปี 2564 ก็ถือเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนซึ่งเป็นผลให้สามารถบรรลุ เป้าหมายหลักของบริษัทฯ ทั้งในแง่การเจริญเติบโตและ การเปลี่ยนแปลง

ในขณะที่ไทยวาก้าวเข้าสู่ปีที่ 75 ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์และเส้นทางการเดินทางของบริษัทฯ ไทยวา ยังคงมุ่งมั่นเพิ่มความแข็งแกร่งในเครือข่ายและกําลังการผลิตในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปัจจุบันมีโรงงาน/สำนักงาน 15 แห่งใน 5 ประเทศ ไทยวายังคงมุ่งเน้นพัฒนากลยุทธ์การขายและการทำการตลาดสากลโดยอาศัยฐานการผลิตที่มีลักษณะ เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มพืชมันสำปะหลัง ถั่วเขียว ข้าว มันเทศ และพืชอื่น ๆ ปี 2564 ถือเป็นปีที่เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในแง่การส่งมอบผลผลิตและผลการดำเนินงานทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัทฯ ได้สร้างสถิติใหม่ในด้านรายได้ การเติบโตของยอดขาย ความสามารถในการทำกําไร และเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอย่าง มีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทฯ จะพยายามรักษาไว้ในปีต่อ ๆ ไป รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 และกําไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับปี 2563

COVID-19 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดเกี่ยวกับความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ ทั้งในแบรนด์ของไทยวา ชื่อเสียงของบริษัทฯ และแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ ตรามังกรคู่ ตราหงส์ ตรากิเลนคู่ ตรากุหลาบ และตรา RosEco ทั้งในด้านวิธีการแก้ปัญหาและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค (B2C) และผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจ (B2B) ผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯ หลายแบรนด์อยู่ในตลาดมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และการเจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งในช่วงสองปีที่ ผ่านมาเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าบริษัทฯ ยังคงต้องดำเนินงานโดยอาศัยมาตรฐานความเป็นเลิศขั้นสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ต่อไป

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างราบรื่นเพื่อขับเคลื่อนความเป็นเลิศทางดิจิทัลเพื่อนําเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าจาก ฟาร์มถึงจุดขาย ระบบองค์กรของบริษัทฯ ทั้งระบบใช้ SAP, Microsoft 360 และ Salesforce เป็นเครื่องมือทางธุรกิจ และวิสาหกิจ นอกจากนี้ เรายังเพิ่มความสามารถในการทำการตลาดดิจิทัลและการจัดประชุมทางเว็บไซต์ขึ้นอีกสองเท่า เมื่อเทียบกับปี 2563

ธุรกิจอาหารของบริษัทฯ มีผลประกอบการที่เข้มแข็ง อันเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตของการค้าปลีกสมัยใหม่ หน่วยขายเคลื่อนที่ และการส่งออก ตลาดการส่งออกของเราเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 25 และธุรกิจอาหารเวียดนามของเรา ยังเติบโตขึ้นเป็นสองเท่าเป็นปีที่สองติดต่อกัน บริษัทฯ จะไม่หยุดยั้งในการเพิ่มความแข็งแกร่งในประเภทผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จัดจําหน่ายเพื่อทำให้ตลาดสะดวกซื้อมีเส้นก๋วยเตี๋ยวและอาหารพร้อมทานที่มีคุณภาพสูง กําไรในธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13 จากปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินค้าเส้นบะหมี่และการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งของแบรนด์และความเป็นเลิศทางการค้า ของบริษัทฯ พื้นฐานของยอดขายที่เติบโตมาจากการที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบบลดความสิ้นเปลือง (LEAN) ในสถานที่และโรงงานที่ใช้ในการผลิตของบริษัทฯ ทุกแห่ง ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการตามรูปแบบระบบ ธุรกิจไทยวา TBS ในฐานะรูปแบบการดำเนินการตลอดทั้งบริษัทฯ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นเลิศในการประกอบการทั้งในด้าน ความปลอดภัย คุณภาพ ค่าใช้จ่าย และการส่งมอบ

ลักษณะสำคัญของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือด้านการเกษตรและอาหาร บริษัทฯ ยังคงเป็นผู้นําที่มีความสำคัญในการริเริ่มให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในส่วนนี้ โดยในปี 2564 บริษัทฯ ได้เป็นคู่ค้ากับ แพลตฟอร์มความร่วมมือชั้นนําในภูมิภาค เช่น Future Food Asia และ Asia Pacific Agri Innovation Summit นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ จะเป็นเจ้าภาพในการประชุม Southeast Asia Agfood Roundtable ซึ่งเป็นการจัดการประชุม เป็นครั้งแรก ในเชิงการดำเนินงาน บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและให้ความร่วมมืออย่างลึกซึ้งเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยสามารถ ดำเนินงานได้อย่างยั่งยืนและมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เริ่มขึ้นโดยอาศัยโครงการในระยะทดสอบกว่า 10 โครงการในรอบ 2 ปีที่ ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งพัฒนาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นศูนย์สำคัญระดับสากลในการเป็นแหล่งเทคโนโลยีชีวภาพในภูมิภาค

ตลอดการเดินทางที่บริษัทฯ ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ก่อนวิกฤตโควิด-19 ในปี 2564 ไทยวาได้เปิดธุรกิจใหม่ ในส่วนของไทยวา ไบโอพลาสติกและไทยวาเวนเจอร์ แบรนด์สินค้าไบโอพลาสติก “RosEco” เป็นสินค้าจําพวกดังกล่าวรายแรกในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งทำมาจากพืชทั้งหมดประกอบกับไบโอโพลีเมอร์ และสามารถย่อยสลายได้โดยสมบูรณ์ ไบโอพลาสติกจากมันสำปะหลังรุ่นแรกนี้จะมีราคาที่คุ้มค่าและสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมายในฐานะเป็นส่วนผสม หลายส่วนในฟิล์มและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังก่อตั้งไทยวาเวนเจอร์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกในการ คิดค้นนวัตกรรมอาหารและการเกษตรจากธุรกิจสู่ธุรกิจที่มุ่งเน้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นในประเด็น ที่มีความสำคัญเช่นเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวข้องกับฟาร์ม ห่วงโซ่อุปทานและการวิเคราะห์ระหว่างธุรกิจ วัตถุดิบใหม่ และไบโอพลาสติก สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในความพยายามของเราในการสร้างแพลตฟอร์มระบบนิเวศใหม่ เพื่อให้บริษัทฯ ได้เป็นคู่ค้าและขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงที่จะมาเป็นอุปสรรคในทศวรรษที่จะมาถึงต่อไป

ด้วยผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสถานะทางกระแสเงินสดและงบดุลที่มีความเข้มแข็ง บริษัทฯ ยังคงทำการลงทุนอย่างมีวินัยโดยพิจารณาผลตอบแทนจากเงินลงทุนที่ได้ลงไป รวมถึงนโยบายของบริษัทฯ ในการสร้างมูลค่าทุนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มกระแสเงินสดในการดำเนินงานในฐานะเป็นตัวชี้วัด ผลการดำเนินงานที่เป็นสาระสำคัญของบริษัทฯ หลักการเหล่านี้เป็นแนวทางที่บริษัทฯ บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เงินทุนหมุนเวียน การบํารุงรักษา และการปรับปรุง และรายจ่าย โดยรวมแล้วกระแสเงินสดสุทธิสำหรับผลประกอบการ ของบริษัทฯ ในปี 2564 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น

โดยสรุปแล้ว ผลกําไรสุทธิของบริษัทฯ สำหรับช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2564 ตามที่ปรากฏในงบการเงินรวม คิดเป็นเงินจํานวน 323 ล้านบาท (หรือ 6.29 บาทต่อหุ้น) ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการจึงได้มีมติเสนอให้ จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2159 บาทต่อหุ้น สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจําปีของบริษัทฯ ในวันที่ 22 เมษายน 2565

บริษัทฯ ยังมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment; THS) ในปี 2564 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้งยังได้รับรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Disclosure Award) จากสถาบันไทยพัฒน์เป็นปีที่สามติดต่อกัน บริษัทฯ ยังได้รับรางวัล Asia Corporate Excellence and Sustainability Awards (ACES) โดยได้รับยกย่องเป็นพิเศษในหมวดหมู่นวัตกรรมสีเขียวในปี 2564 อันเป็นผลมาจากการมุ่งมั่นผลักดันเป้าหมายความยั่งยืนในการเพาะปลูก ด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย และสุขภาพ และการมุ่งดำเนินการตามขอบข่ายความยั่งยืน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับรางวัล International Innovation Awards (IIA) 2021 สำหรับผลิตภัณฑ์หุ้นเส้นตรามังกรคู่บาลานซ์จาก Enterprise Asia และรางวัลองค์กรสนับสนุนคนพิการ ดีเด่นประจําปี 2564 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับ “ธรรมาภิบาลดีเลิศ” เป็นปีที่สองในปี 2564 สำหรับการ ดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งรางวัลเหล่านี้ถือเป็นเครื่องยืนยัน ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส ในทุกด้านของห่วงโซ่ คุณค่าของบริษัทฯ

ท้ายที่สุดแล้ว บริษัทฯ ยอมรับความหลากหลายในทุกด้านที่พึงจะกระทำได้ โดยหนึ่งในสามของกรรมการอิสระของ บริษัทฯ เป็นผู้หญิง ร้อยละ 50 ของคณะผู้บริหารของเราเป็นผู้หญิง ร้อยละ 40 เป็นคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย และร้อยละ 60 จากผู้บริหารระดับสูงสุดจํานวน 25 คนของบริษัทฯ เป็นผู้หญิง คณะผู้บริหารครึ่งหนึ่งของบริษัทฯ เป็นผู้มีอายุต่ํากว่า 45 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นํา ความสามารถ และความกระตือรือร้นที่จําเป็นสำหรับทศวรรษหน้าที่บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างทีมงานระดับโลก

เส้นทางการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2558 จะยังคงดำเนินต่อไปในทศวรรษที่กําลังจะมาถึงนี้ ครอบครัวไทยวา ของเรายังคงมุ่งเน้นและมุ่งมั่นเป็นผู้ริเริ่มและขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสร้างความยั่งยืนและนวัตกรรม จากฟาร์มถึงจุดขาย ในขณะที่บริษัทฯ ยังคงสร้างอนาคตและเส้นทางต่อไปในทศวรรษที่จะมาถึงนี้ จิตวิญญาณของไทยวา ที่มีความกล้า มีความคิดสร้างสรรค์ และความกระตือรือร้นจะยังคงอยู่ ปีนี้เป็นปีที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบ 75 ปี ผมมีความขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อผู้บุกเบิก ผู้นําและผู้ร่วมงานจํานวนมากที่สร้างไทยวาให้เป็นบริษัทอย่างที่บริษัทฯ เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไทยวายังคงสร้างอนาคตต่อไปในทศวรรษที่จะมาถึงนี้โดยอาศัยความแข็งแกร่งที่มีและแรงขับเคลื่อนอันดีเลิศ

ขอให้ทุกท่านดูแลรักษาตัว ผมหวังว่าจะได้พบกับทุกท่านในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือเดือนต่อไปนี้ และหวังว่าจะได้พบกับทุกท่าน ด้วยตนเอง

นายโฮ เรน ฮวา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร