ข่าวแจ้งสื่อมวลชน

TWPC ปลื้ม... ติดโผ “หุ้นยั่งยืน” จากตลาดหลักทรัพย์ฯ 4 ปีซ้อน ตอกย้ำบรรษัทภิบาลยอดเยี่ยม

กรุงเทพฯ (10 ตุลาคม 2565) — บมจ.ไทยวา (TWPC) ได้รับคัดเลือกจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้เป็น “หุ้นยั่งยืน” ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี พ.ศ. 2565 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สะท้อนศักยภาพการดำเนินงานขององค์กรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการตามหลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG โดยให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทางผู้บริหาร “โฮ เรน ฮวา” ตอกย้ำ บริษัทฯ พร้อมเป็นตัวแทนผู้ประกอบการภูมิภาคเอเชีย นำทัพสินค้าเกษตรและอาหารบุกตลาดโลก มั่นใจหนุนผลประกอบการในอนาคต ติดปีก บริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืนประจำปี พ.ศ. 2565 และ TWPC ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 170 บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการประเมินคุณสมบัติตามที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ บริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่พนักงานในองค์กร ไปจนถึงชุมชนโดยรอบและสังคมในภาพรวม ตลอดทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) กล่าวตอบรับการที่ บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า “ไทยวา ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มผลิตผลทางการเกษตรและผู้ผลิตมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ปีนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืน เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญไม่เพียงแต่กับด้านเศรษฐกิจ หากแต่ยังกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการตามหลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ในระยะยาว บริษัทฯ จะยังคงยืนหยัดผลักดันธุรกิจให้เป็นธุรกิจยั่งยืน สร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงหลัก ESG รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ให้ธุรกิจเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”

บริษัทฯ เชื่อมั่นภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงจะยังคงเดินหน้าเป็นตัวแทนผู้ประกอบการภูมิภาคเอเชีย ขยายตลาดสินค้าเกษตรและอาหารไปทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเกษตรและอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ หรือดิจิทัลซัพพลายเชน รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ผลประกอบการในอนาคตเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน